1. การฟื้นสภาพต้น – ใบ หลังการเก็บเกี่ยว
หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตควรตัดแต่กิ่งของเงาะเพื่อเป็นการจัดการต้นเช่นการตัดแต่งกิ่งเล็กที่ขึ้นแซมกิ่งที่ขึ้นซ้อนทับกันกิ่งที่เสียเพื่อเป็นการให้ใบในทุกๆยอดได้รับแสงอย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพในการ
สังเคราะห์แสง
การเตรียมต้นเงาะให้กลับสู่สภาพที่สมบูรณ์ด้วยการบำรุงหลังการเก็บเกี่ยวเป็นการทำให้ต้นเงาะแตกรากแตกใบได้ดี
ปัญหาการปลูกเงาะต้นเล็ก..แต่อยากได้ผลเร็ว
เงาะเป็นที่นิยมในการปลูกแซมพืนทุเรียน เพราะทุเรียนให้ผลช้า จึงนิยมปลูกเงาะแซมทุเรียนด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เงาะต้นเล็กมีใบน้อย แต่ต้องการดอกและผลมาก จึงต้องมีการทำใบ 3 ชุด ชุดใบละอย่างน้อย 20 ใบต่อยอดเพื่อเป็นการใช้สังเคราะห์แสงให้พืช หากชุดใบมีไม่เต็ม 3ชุดหรือใบไม่ดีจะต้องทำให้ใบที่มีอยู่นั้นคงความเขียวของใบจนถึง
การเก็บเกี่ยว
คำแนะนำ
- ทางใบใช้แมมมอท แคลเซียม แม็กนีเซียม ร่วมกับ ทางดินใช้ ยูท่า 10 เพื่อคงสภาพความเขียวของใบตั้งแต่ระยะดอกบานจนถึงเก็บเกี่ยว
2. การสะสมอาหาร – ทำใบ
ใบชุดที่1 เป็นสิ่งสำคัญเพราะทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงเพื่อส่งน้ำตาลไปเลี้ยงรากและรากส่งไปสะสมที่ใบใบชุดแรกจึงสำคัญเป็นพื้นฐานของใบชุดต่อไปโดยใบชุดแรกจะใช้เวลา45-60วันในการผลิกางอย่างเต็มใบและมีสีแก่เข้ม
ใบชุดที่ 2 สะสมอาหารเพื่อการสร้างดอกและเลี้ยงผล เมื่อใบชุดที่ 2 ผลิกางเป็นใบอ่อนระยะเพสลาดแล้วให้ใส่ปุ๋ยและฉีดอาหารเสริมทางใบเพื่อเป็นการสะสมให้ใบชุดที่ 2 มีสีเขียวเข้มทุกใบในต้น
กดยอดอ่อน เร่งใบ เพื่อเปิดตาดอก ควบคุมใบให้แก่จัดทั้งต้นโดยไม่มีใบอ่อนเป็นระยะเวลา 25-50 วัน โดยการงดให้น้ำหรือกักน้ำ เพื่อเปลี่ยนตาใบเป็นตาดอก แต่หากมีฝนตกการกักน้ำไมสามารถทำได้ต้องอาศัยการฉีดพ่นธาตุอาหารเพื่อเป็นการกดยอดให้ใบแก่
ปัญหา ใบไหม้ หรือปลยใบไหม้
เป็นอาการที่ใบจะเป็นมากเมื่อเก็บเกี่ยวผลเงาะออกจากต้นไปแล้วเพราะใบท่ไหม้นั้นเกิดจากใบที่สูญเสียธาตุแมกนีเซียมไปกับผลที่เก็บเกี่ยวออกไป โดยการฉีดพ่นทางใบด้วยแมมมอท แคลเซียม แม็กนีเซียม หรือใส่ ยูท่า 10 หรือ โมสาท ชาร์จ เสริมทางดิน
คำแนะนำ
ทางใบฉีดพ่น แมมมอท แคลเซียม แม็กนีเซียม ร่วมกับ แมมมอท สุพรีม 0-28-18 ฉีดพ่นทางใบ 2-2 ครั้ง ห่างกัน 10 วัน เพื่อทำให้ใบมีสีเขียวเข้ม
ทางดินใส่ปุ๋ย 8-24-24 เพื่อให้รากดูดปุ๋ยสะสมดอกในใบ
พ่น แมมมอท ฮอล์ ร่วมกับ แมมมอท สุพรีม 0-28-18 เพื่อกดยอดใบแก่
3. ดึงดอก-ระยะดอกโรย
หลังจากได้มีการทำใบคุมใบให้แก่จัดทั้งต้นเป็นระยะเวลา25-50วันเพื่อเปลี่ยนตาใบเป็นตาดอกแล้วจะต้องกระตุ้นทำให้ต้นแตกตาดอกพร้อมกันโดยพ่นกลุ่มอาหารเสริมในการเปิดตาดอก หลังจากเปิดตาดอกแล้วประมาน5-7วันให้สังเกตุว่ามีตาดอกเพิ่มขึ้นหรือไม่จากนั้นให้เสริมด้วยชุดบำรุงดอกเพื่อการผสมดอกให้ติดดียิ่งขึ้นและเป็นการช่วยพลิกลูกจะต้องใช้อะมิโนและแคมเซียมซีโบรอนเพื่อให้ติดลูกหรือพลิกลูกได้ดีมากขึ้น
คำแนะนำ
- ฉีดพ่นทางใบ แมมมอท ฟองดู 200 ซีซี. ร่วมกับ แมมมอท ชูการ์ เอ็กซ์เพรส 200 ซีซี. ฉีดพ่นทางใบ 3 ครั้ง ห่างกัน 5วัน เพื่อการได้ดอกที่ใกล้เคียงกันในต้น
- ฉีดพ่นทางใบ แมมมอท แคมเซียมซีโบรอน 200 ซีซี. ร่วมกับ เออร์โกสติม 200 ซีซี. เพื่อให้ติดลูกง่าย ลดปัญหาการหลุดร่วง
ปัญหาดอกปนใบ
เป็นปัญหาที่พบกับต้นที่ได้แดดไม่พอการกักน้ำไม่อยู่ มีไนโตรเจนค้างในใบมากหรือปัญหาที่มีฝนตกหนักจึงทำให้การกักน้ำไม่สมบูรณ์ แสงแดดไม่เพียงพอในการสะสมน้ำตาล การเกิดใบแซมออกมาพร้อมดอกหรือต่อดอกตามมาในขณะดึงดอกจึงต้องรีบแก้ไขโดยการกดใบเพิ่มปุ๋ยฟอสเฟตโพแทสเหลวทางใบและเพิ่มน้ำตาลที่ใบเพื่อเป็นการเปลี่ยนตาใบกลับมาเป็นตาดอกโดยการฉีดพ่นทางใบ ด้วย แมมมอท ฮอลท์ ร่วมกับ แมมมอท สุดรีม0-28-18 ร่วมกับ แมมมอท ชูก้าร์ เอ็กซ์เพรส 2ครั้งห่างกัน 5วัน จะได้ช่อดอกที่พัฒนาต่อได้
4. บำรุงผลอ่อน
ผลแตกเป็นความสูญเสียที่น่ากลัวที่สุดเพราะผลจะแตกมากเมื่อมีฝนตกถ้ามีการบริหารจัดการน้ำที่ดีคือมีการเลี้ยงน้ำให้เงาะในระยะเจริญผลอย่าให้ขาดน้ำเกินกว่า3-5วันก็จะทำให้ไม่เกิดการดูดน้ำเข้าผลมากเกินไปเมื่อมีฝนตกหลงฤดู
นอกจากการบริหารจัดการน้ำภายนอกให้ดีแล้วการบริหารธาตุอาหารภายในก็สำคัญเช่นกันเพราะการเพิ่มธาตุอาหารจะทำให้ลดการสูญเสียได้มากเนื่องจากเงาะมีเปลือกที่หนาและแข็งแรงพอที่จะควบคุมปริมาณน้ำที่ผลได้ดีและเก็บสะสมน้ำตาลสร้างเนื้อได้มาก ร่วมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของขั้วผลจะทำให้ผลโตไปพร้อมกัน การแตกของผลจะน้อยลงได้ผลที่สม่ำเสมอ
คำแนะนำ
- ฉีดพ่น แมมมอทแคลเซียม โบรอน 200 ซีซี. ร่วมกับ แมมมอท โฟลิไซม์ จีเอ 200ซีซี.
5. ขยายผลใหญ่ก่อนเก็บ
เงาะที่เก็บขายบางผลจะพบว่าเนื้อไม่ดี เนื้อไม่หนาพอ เนื้อเหนียวไม่กรอบเมื่อแกะดูให้สังเกตที่เปลือกในผลจะพบร้องรอยเป็นหลุมเป็นจุดนูนไม่เรียบเป็นเนื้อเดียวเสมอกันเปลือกภายในผลเป็นคลื่น เป็นตัวบ่งบอกว่า ผลเงาะขาดแคลเซียม โบรอน ในระยะการสร้างเนื้อ สร้างเปลือก
การขยายผลเงาะต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของต้นเงาะที่สำคัญ 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
- การติดผลต้องเป็นรุ่นเดียวกัน
- มีการแต่งช่อผลที่มีอยู่30-35ผลต่อช่อจำนวนผลไม่ควรเกินกำลังใบ
- ขั้วผลต้องทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการส่งน้ำตาลให้ถึงทุกผล
- เปลือกต้องมีแคลเซียมโบรอนอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันเปลือกแตกเพราะเปลือกต้องแข็งแรงและควบคุมการเข้าออกของน้ำได้ดี
- ต้องมีการป้องกันราแป้งอย่างมีประสิทธิภาพเพราะหากถูกราแป้งเข้าทำลายเปลือกจะเกิดแผลเมื่อเร่งผลเปลือกจะขยายตามไม่ทันเนื้อภายในจะส่งผลให้เปลือกแตก
คำแนะนำ
- ฉีดพ่นทางใบ แมมมอท แคลเซียม โบรอน 200 ซีซี. ร่วมกับ แมมมอท โฟลิไซม์ จีเอ 200ซีซี. ร่วมกับ อั้ม 300 กรัม อัตราต่อน้ำ200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทุกๆ7-10วัน
- ทางดิน ใส่ปุ๋ย 12-12-17 หรือ 15-5-20 หรือ 13-13-21 อัตรา 1-2 กก.ต่อต้น ร่วมกับ ปุ๋ย 15-0-0 อัตรา 500 กรัมต่อต้น